
ข้อมูลของพระมหาธาตุที่ดอยอินทนนท์จากเว็บไซต์กองทัพอากาศ
http://www.rtaf.mi.th/rtaf-travel/jd.htm
พระมหาธาตุ นภเมทนีดล
ในวาระที่กองทัพอากาศ มีอายุครบ ๗๒ ปี ในวันที่ ๒๗ มีนาคม
ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๐ นั้น
จวบกับวาระมหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ ในวันที่ ๕ ธันวาคม ปีเดียวกัน
ข้าราชการกองทัพอากาศโดย พลอากาศเอก ประพันธ์ ธูปะเตมีย์
ผู้บัญชาการทหารอากาศ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ได้เห็นพ้องกันว่า
สมควรร่วมใจบริจาคทรัพย์ทำบุญสร้างอนุสสารณียวัตถุขึ้นเป็นที่ระลึกวาระสำคัญของกองทัพอากาศและเฉลิมพระเกียรติน้อมเกล้าฯ
ถวายเป็นพระราชกุศลในศุภวาระมงคลนี้
การร่วมใจบริจาคทรัพย์ทำบุญสร้างอนุสสารณียวัตถุใดที่จะให้เจริญพระราชกุศลอันยิ่งใหญ่
สมกับวาระมหามงคลสมัยพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ
รวมทั้งเพื่อเป็นการประกาศพระอิสริยยศอันยิ่งใหญ่ที่จะทรงครองราชย์มานานเกินกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดในวันที่
๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๓๑ นี้
คงจะไม่มีสิ่งอื่นใดเทียบเท่าการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
กอปรทั้งปวงอาณาประชาราษฎร์ต่างเห็นประจักษ์ด้วยเกล้าฯ ว่า
นอกจากจะทรงดำรงฐานะแห่งองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก
โดยเฉพาะทรงช่วยอภิบาลบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสถาพรยิ่งกว่าในกาลรัชสมัยใดแล้ว
ยังทรงเจริญพระราชศรัทธาเลื่อมใสในพระบวรพุทธศาสนาอย่างยิ่งยวดอีกด้วย
ทั้งไม่แต่การถวายพุทธสักการะเป็นอามิสบูชา
แม้การปฏิบัติบูชาก็ทรงมีพระราชศรัทธาบำเพ็ญภาวนาให้ทรงบรรลุและสำเร็จได้จริงจัง
การสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ของกองทัพอากาศเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล
จึงเป็นวิธีเดียวที่กองทัพอากาศรำลึกว่า
จะฉลองพระเดชพระคุณอันเปี่ยมล้นได้อย่างสูงสุด
แม้จะยังไม่สมกับพระบรมเดชานุภาพ และพระบารมีแห่งพระมหาธรรมราชา
ที่แผ่ไพศาลสุดแผ่นดินและจดแผ่นฟ้าก็ตาม
สถานที่ซึ่งควรจะประดิษฐานพระบรมธาตุเจดีย์นี้ จึงควรสถิตอยู่ ณ
จุดที่สูงสุดบนผืนแผ่นดินไทยที่กองทัพอากาศสามารถขึ้นไปก่อสร้างได้
เพื่อให้สมกับพระมหากรุณาธิคุณ พระมหาเมตตาธิคุณ และพระมหาบริสุทธิคุณ
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้สถิตอยู่สูงสุด
และในดวงใจของปวงพสกนิกรทุกหมู่เหล่า
กองทัพอากาศ จึงพิจารณาเลือกยอดเขาแห่งหนึ่งบนดอยอินทนนท์
ซึ่งเป็นดอยที่มียอดสูงที่สุดของประเทศไทย
เป็นสถานที่สร้างพระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานชื่อ ตามที่กองทัพอากาศขอพระราชทานว่า "พระมหาธาตุนภเมทนีดล"
แปลได้ความว่า
พระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจดดิน
บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนผู้ยึดมั่นสักการะบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และพระรัตนตรัย
หรือท่านศาสนิกชนอื่นที่เปี่ยมล้นด้วยความจงรักภักดีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เมื่อได้มาเห็นพระมหาธาตุเจดีย์ และรู้เหตุแห่งการสร้างน้อมเกล้าฯ
ถวายเป็นพระราชกุศลเสริมบุญญาธิการ ย่อมปีติปราโมทย์อนุโมทนา
ตั้งจิตถวายพระพรชัยมงคลอีกทุกครั้งคราว
ทั้งย่อมจะเห็นเป็นนิมิตเช่นเดียวกันว่า
พระพุทธคุณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และอานุภาพแห่งคุณพระรัตนตรัย
อีกทั้งเดชะบารมีแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระมหาธรรมราชาอันยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจดดินนี้
จะคุ้มครองไปตลอดทุกทิศทั่วพระราชอาณาเขต และบันดาลให้อาณาประชาราษฎร์
ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร มีแต่ความร่มเย็น สมบูรณ์ พูนสุข เจริญรุ่งเรือง
มั่นคงวัฒนาสถาพร ปวงปัจจามิตรพ่ายแพ้ไปชั่วนิจนิรันดร์
พระมหาธาตุ นภพลภูมิสิริ
ปีพุทธศักราช ๒๕๓๕
นับเป็นปีมิ่งมหามงคลสำหรับพสกนิกรชาวไทย ด้วยเป็นวโรกาสที่
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ ในวันที่
๑๒ สิงหาคม ๒๕๓๕
กองทัพอากาศ ตระหนักในพระราชจริยาวัตรของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงอุตสาหะบำเพ็ญมาโดยต่อเนื่อง
นับแต่ได้ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นที่ประจักษ์แจ้งถึงความมุ่งมั่นแน่วแน่ในพระราชหฤทัยที่จะทรงจำเริญรอยพระยุคลบาทของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในอันที่จะอุทิศพระวรกาย
พระราชหฤทัยและพระราชทรัพย์ บำเพ็ญพระราชกรณียกิจ
เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร
ด้วยพระราชหฤทัยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาปรารถนาที่จะให้ปวงชนเป็นสุข
พ้นจากความทุกข์และความยากไร้
ยามใดภัยพิบัติบังเกิดขึ้นแก่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน
ก็เสด็จพระราชดำเนินไปทรงช่วยแก้ไข ผ่อนผันบรรเทาคลาย บรรดาข้าราชการทหาร
ตำรวจ พลเรือน และผู้ทำหน้าที่ป้องกันประเทศชาติ
ต่างได้รับพลังใจอย่างสูงสุด พระเกียรติคุณจึงแผ่ขยาย ขจรขจายไปทั่วหล้า
เป็นที่ชื่นชมเชิดชูของนานาประเทศ พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า
จึงพากันปลื้มปีติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นโดยมิรู้เสื่อมคลาย
ในวโรกาสอันเป็นมหามงคลสมัยนี้ กองทัพอากาศ
และประชาชนชาวไทย จึงได้ร่วมใจกันสร้าง
พระมหาธาตุเจดีย์น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล
และเทิดพระเกียรติแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
องค์พระแม่เจ้าของชาวไทยทั้งปวงบนยอดดอยอินทนนท์
เพื่อเป็นปูชนียสถานสำคัญเคียงคู่พระมหาธาตุเจดีย์ นภเมทนีดล
ให้ประชาชนที่มาเยี่ยมชมและสักการะ ได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของทั้ง
๒ พระองค์ ไว้ในความทรงจำชั่วนิรันดร์
พระมหาธาตุที่ กองทัพอากาศ สร้างขึ้น
น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานนามว่า "พระมหาธาตุเจดีย์ นภพลภูมิสิร"
มีความหมายว่า "เป็นกำลังแห่งฟ้า เป็นสิริแห่งดิน"
องค์เจดีย์มีรูปทรงที่ละม้ายคล้ายคลึงกับองค์พระมหาธาตุเจดีย์ นภเมทนีดล
มีรูปทรงสัณฐานเป็นรูป ๑๒ เหลี่ยม มีระเบียงกว้างโดยรอบเป็น ๒ ระดับ
สำหรับให้พุทธศาสนิกชนและผู้มาเยี่ยมชมได้กระทำทักษิณาวัฏบูชา
และเดินชมทิวทัศน์ได้โดยรอบ
องค์พระมหาธาตุเจดีย์มีความกว้างที่ระดับระเบียงชั้นล่าง ๓๗ เมตร สูง ๕๕
เมตร ซึ่งต่ำกว่าพระมหาธาตุเจดีย์ นภเมทนีดล ๕ เมตร
เพื่อแสดงความหมายถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ทรงอ่อนพระชันษากว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๕
พรรษาที่ยอดปลีขององค์เจดีย์เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
ซึ่งบรรจุอยู่ในพระธาตุหริภุญชัยจำลอง โดยแยกบรรจุเป็น ๔ ส่วน ได้แก่
ส่วนที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานให้
ส่วนที่ สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานให้
ส่วนที่ รัฐบาลศรีลังกา มอบให้
ส่วนที่ ผู้บัญชาการทหารอากาศและผู้มีจิตศรัทธาร่วมอนุโมทนา
ภายในโถงเจดีย์ของพระมหาธาตุเจดีย์ ตกแต่งด้วยภาพพระราชกรณียกิจ
แกะสลักด้วยหินแกรนิตประดับไว้ที่ผนังตอนล่าง
ส่วนผนังตอนบนประดับด้วยภาพพุทธประวัติทำด้วยโมเสกแก้ว
ซึ่งจัดภาพและสีด้วยคอมพิวเตอร์สั่งทำจากประเทศอิตาลี
และที่กลางโถงเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูปปางรำพึง ซึ่งเป็นพระประจำพระชนมวาร
ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
จำหลักด้วยหินหยกขาวบริสุทธิ์จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
มีความสูงเฉพาะองค์พระ ๓ เมตร ๒๐ เซนติเมตร หนักประมาณ ๕ ตัน
นับได้ว่าเป็นพระพุทธรูปหินหยกขาวที่มีขนาดใหญ่และงดงามที่สุดองค์หนึ่ง
การดำเนินการก่อสร้างใช้เวลา ๙๐๐ วัน
สิ้นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างทั้งสิ้นประมาณ ๑๓๕ ล้านบาท
เป็นเงินที่รัฐบาลสนับสนุนให้ ๔๘ ล้านบาท
ส่วนที่เหลือเป็นเงินที่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลเป็นเงิน ๘๗
ล้านบาท ในจำนวนนี้
ส่วนหนึ่งเป็นพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานให้เป็นทุนแรกเริ่มสำหรับการดำเนินการ
ซึ่งยังความปลื้มปีติในพระมหากรุณาธิคุณ
และเป็นกำลังใจแก่ผู้เกี่ยวข้องเป็นล้นพ้น
กองทัพอากาศ
ได้ประกอบพิธีน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระมหาธาตุเจดีย์ นภพลภูมิสิริ
เมื่อ ๘ มีนาคม ๒๕๓๖ โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานในพิธี พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ พระราชจริยาวัตรของ ล้นเกล้าฯ ทั้ง ๒ พระองค์
ที่ทรงชื่นชมโสมนัส ตลอดเวลาที่เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร
การตกแต่งทั้งภายในและภายนอกองค์พระมหาธาตุเจดีย์เป็นที่ประทับใจและยังความปลาบปลื้มแก่ผู้ตามเสด็จทุกคน
และเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของ
ทหารอากาศที่ได้ร่วมใจกันสร้างปูชนียสถานสำคัญไว้บนยอดดอยที่สูงที่สุดของประเทศไทย
เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความเทิดทูนและจงรักภักดีที่มีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ อย่างหาที่เปรียบมิได้
"บารมีพระมากพ้นรำพัน" เสมือนหนึ่งเทวาอารักษ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากล
ได้มาชุมนุมกันร่วมอนุโมทนา ในพระราชกุศลที่ทรงบำเพ็ญในวันนี้
จึงบันดาลให้บริเวณพิธีมีแดดร่มลมเย็นกำลังสบายไม่หนาวเย็นจัดเช่นทุกวัน
และเมื่อทรงปลูกต้นไม้เสร็จก็ได้มีฝนโปรยลงมาเป็นที่ชุ่มชื่นราวกับได้รับการประพรมน้ำพระพุทธมนต์
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อจะเสด็จกลับได้มีลูกเห็บขนาดเท่าเม็ดสาคูตกลงมาทั่วทั้งบริเวณ
เหมือนข้าวตอกดอกไม้ที่โปรยปรายจากสวรรค์ เป็นที่อัศจรรย์ยิ่ง
ขออานุภาพแห่งพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ในพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ
จงคุ้มครองและดลบันดาลให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข เจริญรุ่งเรือง
มั่นคงและไพบูลย์ ขอพระราชกุศลที่ กองทัพอากาศและพสกนิกรชาวไทย
น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายนี้ จงสัมฤทธิผลเพิ่มพูนให้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ทรงพระเกษมสำราญ ทรงเจริญด้วยพระพลานามัย
ผองภัยพิบัติมิอาจกล้ำกรายพระบรมเดชานุภาพแผ่ขยายไปทั่วหล้า
ขอพระบารมีคุ้มเกล้าเหล่าพสกนิกรชั่วนิรันดร์
|