พระราชวังเมืองเว้
มาท่องเที่ยวเมืองเว้ ไม่ว่าจะมากับบริษัททัวร์หรือมาเอง
สิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต้องไปเที่ยวคือพระราชวังเก่าของราชวงค์เหงียน
หรือพระราชวังเก่าเมืองเว้ ที่เว้เขาจะเรียกกันว่า pagoda พาโกด้า (คล้ายๆอโกด้า
เว็บจองโรงแรมชื่อดัง)
ที่นี่โดนทำลายอย่างไม่มีชิ้นดีช่วงสงครามเวียดนาม
เมื่อตัดสินใจจะทำเป็นที่ท่องเที่ยวถึงมาซ่อมแซมที่หลังและยังไม่เสร็จดี
ด้านหลังยังเห็นร่องรอยการถูกทำลายอย่างชัดเจนครับ
พระราชวังเว้ได้เป็นมรดกโลกด้วยทำให้นักท่องเที่ยวแห่กันมาจากทั่วโลก
การเที่ยวพระราขวังเว้มีสองแบบคือซื้อทัวร์ไป สองไปเที่ยวเอง
หากมีข้อมูลอ่านมาจากเน็ตก่อนแล้วไปเที่ยวเองก็ได้ครับเสียค่าบัตรผ่านประตู
70 กว่าบาท
เข้าไปเที่ยวทางด้านหน้าแล้วทะลุออกด้านหลังวังเลยก็ได้
มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวทุกวันครับที่นี่
ผมแนะนำว่าพักที่พักในเว้โซนที่ผมแนะนำ
แล้วเดินไปเที่ยวเองดีที่สุดอยู่ตรงไหนนานไม่นานก็ได้
พระราชวังดูเหมือนจะกว้างกำแพงด้านละครึ่งกิโลเมตร
แต่ด้านในมีที่เที่ยวได้จริงๆไม่มากส่วนใหญ่โดนทำลายไปหมดแล้วครับ
จุดที่คนไปออกันมากสุดคือหน้าวังที่มีน้ำ มีปลาคราฟสวยนับร้อยตัว
ไปให้อาหารดูมันว่ายไปมาสวยครับ หรือจะไปใช้บริการขี่ม้าใส่หมวกแบบราชวงค์ที่นี่ก็ได้ครับ
แต่ผมไม่ได้ลองนะครับ
นอกจากขี่ม้ายังมีบริการเช่าชุดฮ่องเต้ให้ใส่ถ่ายรูปนั่งบนบัลลังก์ด้วย
Mr.Hotsia มกราคม 2554
คลิปภาพและเรื่องราวในประวัติของพระราชวังเมืองเว้
Mr.hotsia
สรุปการเที่ยวพระราชวังเว้หลังเที่ยวเสร็จ
ข้อมูลจาก
http://th.wikipedia.org
ราชวงศ์เหงียน (Nhà Nguyễn: ค.ศ. 1802-1945)
เป็นจักรพรรดิราชวงศ์สุดท้ายของจักรวรรดิราชวงศ์เหงียน
ก่อนถูกผนวกเข้าอินโดจีนของฝรั่งเศส
องค์ชายเหงียนแอ๋งหรือจักรพรรดิยาลอง
จักรพรรดิพระองค์แรกของราชวงศ์เหงียนเริ่มฟื้นฟูประเทศ
เวียดนามมีอาณาเขตใกล้เคียงกับปัจจุบัน
ดินแดนภาคใต้ขยายไปถึงปากแม่น้ำโขงและชายฝั่งอ่าวไทย
ทรงรักษาสัมพันธ์กับชาวตะวันตกโดยเฉพาะฝรั่งเศสที่ช่วยรบกับพวกเตยเซิน
นายช่างฝรั่งเศสช่วยออกแบบพระราชวังที่เว้และป้อมปราการเมืองไซ่ง่อน
ราชวงศ์เหงียนรุ่งเรืองที่สุดในสมัยจักรพรรดิมินหมัง
จักรพรรดิองค์ที่4 ทรงเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น ด่ายนาม
ขยายแสนานุภาพไปยังลาวและกัมพูชา ผนวกกัมพูชาฝั่งตะวันออก
ทำสงครามกับสยามต่อเนื่องเกือบยี่สิบปี
แต่ภายหลังต้องถอนตัวจากกัมพูชาหลังถูกชาวกัมพูชาต่อต้านอย่างรุนแรง
สมัยนี้เวียดนามเริ่มใช้นโยบายต่อต้านการเผยแพร่คริสต์ศาสนาของบาทหลวงชาวตะวันตก
มีการจับกุมและประหารบาทหลวงชาวตะวันตกอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงชาวเวียดนามที่นับถือคริสต์ศาสนา
จนถึงรัชกาลจักรพรรดิองค์ที่ 4 คือจักรพรรดิตึดึ๊ก
ทรงต่อต้านชาวคริสต์อย่างรุนแรงต่อไป
จนในที่สุดบาทหลวงชาวฝรั่งเศสขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลของตนให้ช่วยคุ้มครอง
พ.ศ. 2420 เรือรบฝรั่งเศสเข้ามาถึงน่านน้ำเมืองดานัง (หรือตูราน)
ฐานทัพเรือใกล้เมืองหลวงเว้ นำไปสู่การสู้รบกันของทั้งฝ่าย
กองทัพเรือเวียดนามถูกทำลายเกือบทั้งหมด
ต่อมากองกำลังฝรั่งเศสบุกโจมตีดินแดนภาคใต้
จักรพรรดิตึดึ๊กยอมสงบศึกและมอบดินแดนภาคใต้ 12
จังหวัดให้แก่ฝรั่งเศส
ชาวเวียดนามเริ่มต่อต้านการยึดครองของฝรั่งเศสแต่ไม่อาจต่อสู้กับแสนยานุภาพที่เหนือกว่าได้
จนในปี 2422 จักรพรรดิห่ามงี
นำการต่อต้านฝรั่งเศสแต่ต้องพ่ายแพ้
กองทหารฝรั่งเศสยึดพระราชวังและกรุงเว้ได้
จักรพรรดิเสด็จหนีแต่ถูกจับได้และถูกเนรเทศไปยังแอลจีเรีย
ฝรั่งเศสจึงเข้าควบคุมเวียดนามอย่างจริงจังมากขึ้นและแบ่งเวียดนามออกเป็น
1 ส่วน คือตังเกี๋ยในภาคเหนือ
เวียดนามยังมีจักรพรรดิเช่นเดิมแต่ต้องผ่านการร่วมคัดเลือกโดยข้าหลวงฝรั่งเศสและมีฐานะเป็นสัญลักษณ์
อำนาจในการบริหารการคลัง
การทหารและการทูตสูงสุดเป็นของฝรั่งเศส
ถือว่าเวียดนามสิ้นสุดฐานะเอกราชนับแต่นั้น |
|